นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง จากประชาชนยังต้องการเงินทุนไปประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น หลังเศรษฐกิจไทยปีนี้มีสัญญาณการเติบโตดี แต่ยังมีความท้าทายจากนโยบายภาครัฐที่เข้ามาควบคุมการปล่อยสินเชื่อและดอกเบี้ย และมองภาพการแข่งขันจำนำทะเบียนรถ มีการแข่งขันสูงมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ โดยเฉพาะที่เป็นของธนาคารซึ่งเติบโตก้าวกระโดด ทำให้บริษัทจำนำทะเบียนอื่นได้รับผลกระทบ แต่ในส่วนของเฮงลิสซิ่งยังปล่อยสินเชื่อเติบโตได้ดีอยู่
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เฮงลิสซิ่งขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง และเน้นบริหารจัดการควบคุมคุณภาพพอร์ตสินเชื่อให้ดีต่อเนื่อง โดยจะดูแลหนี้ด้อยคุณภาพ หรือเอ็นพีแอลทั้งปีนี้ให้ลดลงเหลือ 3%
“ต้องปรับตัวในเรื่องเช่าซื้อรถยนต์ ในเรื่องของเกณฑ์ดอกเบี้ย เฮงลิสซิ่งได้คิดดอกเบี้ย 22% ไม่ต่างจากสินเชื่อจำนำทะเบียน แต่เมื่อดอกเบี้ยเช่าซื้อีถยนต์ถูกควบคุม 15% จึงได้ลดสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อลง และมาขยายพอร์ตจำนำทะเบียน เพื่อชดเชยส่วนที่สูญเสียไป ทำให้ไม่ได้สูญเสียตรงนี้ และขยายสาขาใหม่ ขยายไปจำนำทะเบียนมากขึ้น”
อย่างไรก็ตามมองว่าเฮงลิสซิ่ง ถูกกระทบกับการคุมดอกเบี้ยแต่ไม่มาก เพราะเมื่อเป็นตัวเล็กในอุตสาหกรรมยังมีพื้นที่ทำมาหากิน แต่ที่กระทบรุนแรงคือบริษัทต้นๆของอุตสาหกรรมเพราะขยายสาขาไปเต็มพื้นที่ของประเทศแล้ว และเฮงลิสซิ่งมีฐานแข็งแกร่งภาคเหนือ และขยายไปสู่พื้นที่ภาคอื่นๆ ได้อีก ซึ่งเป็นไปตามการให้สินเชื่อในปีนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“เมื่อต้นทุนบริษัทเพิ่มขึ้น ยังมีทางออกขยับดอกเบี้ยขึ้นเพราะยังไม่เต็มเพดาน ในอนาคตจะขยับจาก 22% เป็น 23-24% หรือไม่ ในเวลานี้การหาสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้า ก็ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มเพดานดอกเบี้ย และเน้นปล่อยจำนำทะเบียนรถ ดอกเบี้ยจะสูงกว่าเช่าซื้อ ซึ่งยืนยันปีนี้และปีหน้าไม่จำเป็นต้องขยับดอกเบี้ยขึ้นกับกลุ่มลูกค้าใหม่ ถ้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหวก็จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย แต่ยืนยันตอนนี้ยังไม่จำเป็น”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายพัฒน์พงษ์ ผาทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เฮงลิสซิ่ง กล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตพอร์ตสินเชื่อรวมในปีนี้ 14,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อรวม 12,020 ล้านบาท เน้นไปยังสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อกลุ่มดังกล่าวเป็น 55-60% ของพอร์ตสินเชื่อรวม พร้อมจับมือพันธมิตรผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองทั่วประเทศที่มีแผนขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการเต๊นท์รถเพิ่มเป็น 6,500 แห่ง จากเดิม 5,100 แห่ง เพื่อให้คำแนะนำและส่งต่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขาเฮงลิสซิ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดครบ 830 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ