จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กArpapan Jaiman ได้โพสต์ข้อความว่า ได้รับความเดือดร้อนจากคอนโดข้างห้องโดยที่มีต่างชาติเพิ่งมาเช่าคอนโด และได้มั่วสุมดูดกัญชาจนส่งกลิ่น โถงทางเดินส่วนกลาง ทำให้ลูกชาย ต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน เนื่องจากได้รับกลิ่นกัญชาข้างห้อง แต่กฎหมายไทยไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้แต่จะแจ้งความก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลกว่า 17,376 บาท โดยที่คนดูดกัญชาหรือเจ้าของห้องพักดังกล่าวได้ชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด
นักท่องเที่ยวอิสราเอลเมากัญชาอาละวาด! อ้างเครียดประเทศมีสงคราม
“เศรษฐา” ให้คำมั่น แก้นโยบายกัญชาใน 6 เดือน จำกัดเพื่อการแพทย์เท่านั้น
สลด! เด็กหญิง 13 ปี ถูกบังคับเสพกัญชา ก่อนล่วงละเมิดทางเพศจนตั้งครรภ์
ล่าสุดวันที่ 6 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Arpapan Jaiman ซึ่งได้ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.อาภาพรรณ ศรีดาชาติ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพัก 1239 ของคอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ย่านถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดย น.ส.อาภาพรรณ ได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูบริเวณจุดที่เดินผ่าน และหน้าห้องที่ได้กลิ่นกัญชาออกมา พร้อมกับพาไปดูภายในห้องที่นำลูกชายวัย 4 ขวบนอนพัก ก่อนที่อาการจะแย่ลงและนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล
น.ส.อาภาพรรณ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ช่วงเวลาประมาณ 18.40 น. ได้มีชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามของเราได้เปิดประตูออกมา ห่างจากเราที่ออกจากห้องประมาณ 2 นาที พอออกมาก็ได้กลิ่นกัญชาที่โถงทางเดินค่อนข้างแรงมาก จึงได้แจ้งทางนิติของคอนโดให้แจ้งเตือนกับลูกค้าเพื่อให้หยุดการดูดกัญชาภายในห้อง เพราะประตูห้องมีช่องที่กลิ่นและควันสามารถลอดออกมาได้ จากที่จะออกไปทำธุระด้านนอกก็รู้สึกว่ามีอาการปวดหัว เวียนหัว จึงนั่งอยู่ที่บริเวณล็อบบี้ของคอนโด แต่หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ลูกชายของตนบอกว่ามีอาการปวดหัวอยากกลับขึ้นห้อง เราจึงได้รอให้ทางนิติคอนโดเคลียร์กับเจ้าของห้องที่เป็นคู่กรณี แต่รอเป็นเวลานานไม่มีใครเปิดประตู จากนั้นทางนิติฯ ได้ขออนุญาตเจ้าของห้องเพื่อที่จะเปิดห้องเข้าไปดู แต่พอเปิดห้องได้ก็ได้กลิ่นกัญชาแรงมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ รปภ. และเจ้าหน้าที่นิติฯ ที่ขึ้นไปตรวจสอบก็มีอาการปวดหัว เวียนหัวเหมือนกัน และพบว่าลูกค้าไม่ได้อยู่ที่ห้องคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. ได้กลับขึ้นไปที่ห้อง ก็ได้พาลูกชายนอน แต่เวลา 22.00 น. ก็มีอาการร้องไห้ฟูมฟายโดยที่ไม่มีการพูดคุยโต้ตอบกับเรา ซึ่งได้พยายามปลุกเขาตลอดเวลาว่า "คุยกับแม่ซิ คุยกับแม่ซิ เกิดอะไรขึ้น" เขาไม่มีการโต้ตอบกับเรา จึงคิดว่าเขาปวดหัวหรือเปล่าจึงนำยาแก้ปวดหัวมาให้เขาทาน ไม่ถึง 2 นาทีเขามีอาการอาเจียน แล้วเขาก็เริ่มไม่รู้สึกตัว จึงนำไปที่อ่างอาบน้ำเพื่อทำการล้างตัว น้องเหมือนมีอาการมึนเมา ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและพาน้องออกมา แต่มาถึงหน้าห้องน้องก็มีอาการอาเจียนอีกจึงได้กลับเข้าห้องไปอีกรอบเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และได้แจ้งกับทางนิติฯ ว่าลูกเราป่วยหนักมากต้องการรถฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน เราได้นำน้องขึ้นรถฉุกเฉิน น้องก็มีการลืมตาพูดคุยโต้ตอบ แต่ไปถึงโรงพยาบาลก็ได้อาเจียนออกมาอีก
ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้กับหมอฟัง ทางหมอก็คิดว่าสาเหตุมาจากควันของกัญชาและน้องค่อนข้างได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ใหญ่ น้องจึงมีอาการสะลึมสะลือ และทางหมอได้ทำการรักษาทั้งให้ยาและให้น้ำเกลือ จากนั้นก็ได้ขอใบรับรองแพทย์จากหมอ ซึ่งระบุว่าได้รับผลกระทบจากควันของกัญชา
ต่อมาเราได้พยายามไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าของห้องพักว่าลูกเราได้รับผลกระทบจากการที่ลูกค้าดูดกัญชา แต่ทางเขาปฏิเสธ จึงได้เดินทางไปแจ้งความพร้อมกับเจ้าหน้าที่นิติของคอนโด ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะตอนนี้เป็นกัญชาเสรี ก็ได้ปรึกษากับทางศาล ขั้นตอนต่างๆ เราไม่สามารถทำได้เพราะเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้อยกว่าค่าทนาย จึงได้เดินเรื่องไปยังสำนักงานยุติธรรม และสาธารณสุข และทางสำนักงานยุติธรรมก็จะเป็นตัวแทนทำหนังสือไปยังสำนักงานต่างๆ ให้
ต่อมาวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ตนอยู่ที่ระเบียงห้อง ก็ได้กลิ่นกัญชามาอีก ก็ได้แจ้งกับทางนิติฯ ว่าเขาดูดกัญชาอีกแล้ว พร้อมกับแจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ขอให้มาช่วยตรวจสอบ โดยมีเจ้าหน้าที่นิติฯ ก็ขึ้นไปตรวจสอบด้วย ในห้องกลิ่นกัญชาแรงมาก แต่เขาอ้างว่าเขาจุดเครื่องหอมกลิ่นมะลิ ทางเจ้าหน้าที่นิติฯ จึงได้เชิญเขาออกในตอนเช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 และทางเจ้าของห้องที่เป็นชาวจีนตัวจริงก็ไม่ช่วยเหลืออะไรเราเลย จึงต้องรอสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะช่วยเหลือ
"เราไม่อยากให้มีกัญชาที่เป็นเสรี เพราะจะมีผลกระทบกับเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะส่งผลต่อเด็กในอนาคต ไม่อยากให้เป็นกัญชาเสรี อยากให้กฎหมายทำอะไรกับเขาหน่อย โดยที่เขาสร้างความเดือดร้อนให้เรา จนทำให้ลูกเราป่วยต้องรับการรักษา เราไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้แต่แชร์และโพสต์ข้อความลงในโซเชียล และให้หน่วยงานอื่นๆ ช่วยเหลือ เพราะตำรวจก็ไม่สามารถช่วยเหลือเราได้ หรือจับเขาได้"
"เศรษฐา" สั่ง "ปานปรีย์" ศึกษาความเหมาะสม ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ
เรอัล มาดริด แถลงการณ์โต้ข่าวลือดีล "เอ็มบัปเป้"
“ต้องเต” หวังรัฐจริงจังผลักดันภาพยนตร์ไทย รองเลขาฯ นายกแจง ไม่คิดเคลมความสำเร็จ “สัปเหร่อ”