นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 57,885 ล้านบาท ขยายตัว 5.30%จากการสำรวจเมื่อปี 2562 และผู้ปกครองใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 19,507 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 6.6 % จากปี 2562 ที่มีค่าใช้จ่าย 18,299 บาทต่อคนส่วนใหญ่เป็นค่าเทอม ค่าบำรุงโรงเรียน ค่าหนังสือค่า อุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียนและรองเท้า โดยราคาเครื่องแบบนักเรียนแพงขึ้นถึง 46%
เมื่อถามว่า เงินที่ต้องใช้เพียงพอหรือไม่ในช่วงเปิดเทอม ส่วนใหญ่ 63.5% มีเพียงพอ แหล่งที่มาของเงิน มีการดึงเงินออมออกมาใช้ถึง 50.3% รองลงมาคือการใช้เงินเดือน 46.8% ส่วนกลุ่มที่ไม่เพียงพอ 36.5% ต้องเบิกเงินสดจากบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดมาใช้ 23.1% นำทรัพย์สินไปจำนำ 20.6% และกู้เงินในระบบ 19.7%
ขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ยังเห็นว่าการเรียนพิเศษมีความจำเป็น ในระดับอนุบาล 86.3% รองลงมา เป็นมัธยมปลาย 81.1% และมากกว่า 85% ยอมจ่ายเพื่อให้มีการเรียนเสริมด้านภาษา
ต้อนรับเปิดเทอม! ผู้ปกครองโอดชุดนักเรียนราคาแพงขึ้น คำพูดจาก สล็อตวอเลท
รับเปิดเทอม ผู้ปกครองซื้อชุด นร.เน้นประหยัด-ไซส์ใหญ่กว่าปกติ
โรงรับจำนำช่วยผู้ปกครองรับเปิดเทอม คิดดอกเบี้ย 50 สต.ต่อเดือน
ส่วนสิ่งที่ต้องการ ต้องการให้รัฐบาลช่วยในการศึกษาปัจจุบัน คือ การช่วยเหลือคุ้มค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการศึกษาเช่น ค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน และอยากให้พัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาให้มีความรู้เท่าทันการศึกษาประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่นโยบายของพรรคการเมืองด้านการศึกษาที่เห็นด้วยมาก 80 กว่าเปอร์เซ็นต์คือ โครงการอาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน และ 84.8% กำจัดแป๊ะเจี๊ยะให้หมดไป
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ผลการสำรวจ สะท้อนให้เห็นถึง เศรษฐกิจอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ผู้ปกครองมีความพร้อมในการใช้จ่ายมากขึ้นแต่ยังใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง โดยเงินสะพัดในช่วงเปิดเทอมปีนี้ถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุด ในรอบ 14 ปี จากที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเคยสำรวจมา